ผมพิจารณาอยู่นานว่าจะเขียนบทความนี้ดีหรือเปล่า เพราะมีความเป็นไปได้ว่าอาจถูกเครือข่ายผู้ทำธุรกิจ GDI หรือ Global Domains International รังเกียจเอาได้ แต่คิดว่าจะขอวิเคราะห์อย่างเป็นกลางตามข้อมูลจริงที่ได้เห็น
ช่วงที่ผ่านมา ผมได้รับ e-mail เชิญชวนให้เข้าร่วมธุรกิจ GDI บ่อยมาก ครั้งแรกที่ได้เข้าไปอ่านข้อมูลของธุรกิจนี้รวมถึงดูวิดีโอคลิป ก็รู้สึกตื่นเต้นและอยากเข้าร่วมธุรกิจในทันที ผมตัดสินใจกรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อจะดูข้อมูลของธุรกิจให้ลึกมากขึ้น แต่ยังไม่ตัดสินใจสมัครใช้บริการในทันที
ธุรกิจ GDI ขายโดเมนเนม .ws พร้อมกับบริการทำเว็บไซต์อย่างง่ายๆ ที่คุณทำเองได้เหมือนใช้ Microsoft Word โดยคิดค่าบริการเดือนละ $10 หรือปีละ $120
ค่าบริการ $10 ทาง GDI จะดึงไว้ $5 เป็นค่าสินค้า ส่วนอีก $5 เป็นค่าการตลาดที่จ่ายให้กับผู้ที่ทำการตลาดให้กับ GDI คุณจะได้รับค่าการตลาดนี้ก็ต่อเมื่อคุณสามารถเชิญชวนคนอื่นเข้ามาใช้บริการ GDI โดยคุณจะได้ค่าแนะนำ $1 ต่อหนึ่งคนที่หาเข้ามา นี่เป็นรายได้ในทางกว้าง ส่วนรายได้อีกทางคือทางลึก ถ้าคนที่คุณแนะนำเข้ามาสามารถไปชวนคนเพิ่มเข้ามาได้ เขาจะได้ $1 และคุณก็จะได้ $1 เช่นกัน ลงทางลึกได้ 5 ระดับ ถ้าเป็นชั้นที่ 6 คุณก็จะไม่ได้แล้ว
สรุปง่ายๆ ว่าถ้าคุณสมัครใช้บริการและจ่าย $10 ต่อเดือน ค่าการตลาด $5 จะถูกจ่ายให้กับอัพไลน์ที่ใกล้ตัวคุณ 5 ระดับชั้น รับไปคนละ $1 นั่นเอง
key success factor ของธุรกิจนี้ก็คือคุณจะต้องหาดาวน์ไลน์ให้ได้อย่างน้อย 10 คนภายในหนึ่งเดือน เพื่อที่คุณจะมีรายได้เข้ามาเท่ากับรายจ่าย $10 ที่ต้องจ่ายให้ GDI ถ้าเกิดคุณหาได้เพียงหนึ่งหรือสองคน มีโอกาสสูงครับที่คุณจะเลิกทำในเดือนที่สองหรือสาม
ในขณะเดียวกัน การมีดาวน์ไลน์ 10 คนนั้นยังไม่พอ คุณจะต้องช่วยให้ดาวน์ไลน์แต่ละคนสามารถหา 10 คนต่อไปได้ด้วย เพราะถ้าเขาหาไม่ได้ ผลมันก็จะสะท้อนกลับมาที่ตัวคุณได้เหมือนกัน
หลักการของธุรกิจ GDI ก็เหมือนกับธุรกิจเครือข่ายหรือ MLM ทั่วไป ซึ่งคนที่อยู่ในธุรกิจเครือข่ายก็จะบอกว่าแนวคิดนี้เป็นแนวคิดที่ดี เพราะคุณจะต้องช่วยเหลือคนอื่นให้ประสบความสำเร็จ คุณถึงจะสำเร็จไปด้วย ขณะที่คนที่ไม่เคยเข้ามาในธุรกิจนี้ แต่เคยฟังๆ มา หรือเคยถูกเพื่อนตื๊อมาก่อน ก็อาจจะมีทัศนคติเชิงลบที่มองว่าเป็นธุรกิจกินแรงคนอื่น หรืออะไรก็ตาม
ผมจะไม่คอมเมนต์เรื่องแนวคิดการตลาดแบบนี้นะครับ รู้แต่ว่ายอดธุรกิจที่เกิดจากการตลาดเครือข่ายมีการเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งที่ผมอยากเขียนถึงก็คือสินค้าของ GDI มีราคาแพงเมื่อเทียบกับสินค้าอื่นที่มีรูปแบบคล้ายคลึงกัน แถมยังมีความสามารถที่ด้อยกว่าอีกด้วย
อย่างที่เกริ่นไปในตอนแรกก็คือสินค้าของ GDI ประกอบด้วยโดเมนเนม .ws และบริการเว็บไซต์กึ่งสำเร็จรูปที่คุณทำได้เอง
ถ้าเราลองเทียบกับโดเมนเนม .com ซึ่งเป็นที่รู้จักและยอมรับกันทั่วโลก มีค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนอยู่ที่ปีละประมาณ $10
ส่วนบริการเว็บไซต์กึ่งสำเร็จรูป ทุกวันนี้มีให้ใช้ฟรีแล้ว นั่นก็คือ Google Page Creator ซึ่งถ้าคุณใช้ Google Apps ก็สามารถสร้างเว็บแบบง่ายๆ ขึ้นมาภายใต้ชื่อโดเมนเนมของคุณได้ฟรีๆ
แปลว่า .com + Google Apps จะมีค่าใช้จ่ายปีละ $10 เทียบกับบริการของ GDI ที่มีค่าใช้จ่ายปีละ $120 ต่างกันถึง 12 เท่า!
เท่าที่ผมทราบมาจากการดูวิดีโอของ GDI บริการของ GDI ไม่สามารถทำเว็บไซต์แบบที่มีการติดต่อกับฐานข้อมูลได้ และให้พื้นที่ในการทำเว็บเพียง 10 หน้าเท่านั้น
ถ้าหากคุณไปเช่า web hosting ของต่างประเทศ เอาแบบที่ราคาถูกหน่อย ราคาเดือนละ $3.59 หรือปีละ $43 ก็สามารถติดต่อกับฐานข้อมูลได้ แถมยังให้พื้นที่มากถึง 5 GB
.com + web hosting ในราคาปีละ $53 ก็ยังถูกกว่า GDI มากกว่าเท่าตัว แถมยังมีความสามารถที่สูงกว่าอีกด้วย
นอกจากนี้ สินค้าของ GDI ยังเป็นสินค้าที่ไม่สามารถทำให้ผู้ใช้เกิด loyalty และต้องการซื้อซ้ำได้ ลองนึกดูว่าถ้าคุณไม่สามารถหาดาวน์ไลน์ได้ คุณก็คงไม่จำเป็นต้องใช้บริการของ GDI เลย เพราะคุณมีทางเลือกอื่นในราคาที่ถูกกว่า
บางคนแย้งว่า GDI มีลูกค้าอย่าง Google ด้วยนะ และยังเป็นลูกค้าที่ยั่งยืนของ GDI ด้วย คำตอบก็คือใช่ครับ เพราะเจ้าของแบรนด์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกก็ต้องจดโดเมนให้ครอบคลุมทุกนามสกุลเข้าไว้ นอกจากจะมี google.ws แล้ว ยังมี google.tv, google.info, google.to, google.am และอื่นๆ อีกมากมาย ในอนาคตอาจจะมี google.xxx ด้วยซ้ำ
คนธรรมดาอย่างเราคงไม่มีทางหาดาวน์ไลน์แบบ Google ได้หรอกครับ
ใครที่กำลังจะเข้าสู่ธุรกิจ GDI ก็ลองคิดดูดีๆ นะครับ เพราะมูลค่าของบริการที่คุณได้รับกลับมามันเทียบกับจำนวนเงินที่คุณจ่ายไปไม่ได้ ซึ่งอาจจะทำให้ธุรกิจนี้กลายเป็นการกินหัวคิวไป