เมื่อคนกรุงเทพมีเน็ตไร้สายให้ใช้ฟรีทั่วเมือง จะเกิดอะไรขึ้นกับธุรกิจและชีวิตของเราบ้าง?

เมื่อคืนได้ฟังรายการไอทีทางวิทยุว่ากรุงเทพมหานครร่วมมือกับ True เพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรีทั่วพื้นที่กรุงเทพชั้นใน วันนี้ได้อ่านรายละเอียดข่าวในเว็บไซต์ไทยรัฐ รู้สึกตื่นเต้นครับที่เมืองหลวงของประเทศเราดูทันสมัยทัดเทียมกับเมืองใหญ่ในประเทศอื่น

โดยสรุปแล้ว True มี Hotspot ที่ให้บริการมากถึง 15,000 จุด บนถนนย่านธุรกิจสายหลัก 10 สาย ทำให้กรุงเทพกลายเป็นเมืองหลวงที่มี Hotspot มากที่สุดในเอเชีย และติดอันดับ 1 ใน 6 ประเทศที่มี Hotspot มากที่สุดในโลก ผู้ที่ต้องการใช้งานสามารถขอ Wi-Fi Card ได้ที่ห้างสรรพสินค้าและศูนย์บริการท่องเที่ยว โดยมีแจกให้ใช้ฟรีถึง 500,000 ใบ

เหตุการณ์นี้จะส่งผลอะไรต่อธุรกิจต่างๆ และวิถีชีวิตของเราบ้าง ลองวิเคราะห์กันครับ

หลังจากที่รู้ข่าวนี้ ผมนึกถึงภาพของ Third Place หรือ Mobile Office ที่เราไม่ต้องนั่งทำงานอยู่ที่บริษัทหรือที่บ้าน แต่เอาโน้ตบุ๊กมานั่งที่ร้านกาแฟหรือร้านอาหารฟาสต์ฟู้ด แล้วนั่งทำงานแบบชิวๆ ไปเรื่อยๆ สิ่งเหล่านี้เริ่มเกิดขึ้นแล้ว อย่างเช่นร้าน Bug & Bee ย่านสีลมซึ่งเป็นร้านอาหารบรรยากาศดี เก้าอี้น่านั่ง มีอินเทอร์เน็ตให้ใช้ฟรี และเปิด 24 ชั่วโมง จึงกลายเป็นร้านอาหารที่เดินเข้าไปแล้วจะพบคนนั่งทำงานอยู่หน้าโน้ตบุ๊กกันหลายโต๊ะ (โดยเฉพาะชั้น 3) แต่เมื่อเรามีอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรีทั่วกรุงเทพ วัฒนธรรม Mobile Office ก็คงจะขยายใหญ่ขึ้น ร้านที่แต่เดิมไม่มีอินเทอร์เน็ตให้ใช้ ก็อาจจะมีคนเข้าไปนั่งกันมากขึ้น

สิ่งต่อไปที่ผมคิดก็คือผมเริ่มคิดว่าจะกลับไปใช้ PDA อีกครั้ง โดยเฉพาะ PDA ที่ต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายได้ และมีเว็บบราวเซอร์ที่ทำงานได้รวดเร็ว อย่างเช่น iPhone หรือ iPod Touch เพื่อที่ว่าจะได้เปิดเว็บ เล่น Twitter หรือเปิดดู Google Maps ได้ขณะที่เดินอยู่บนถนน ต่อไปเราอาจจะเห็นคนเดินจิ้ม PDA ขณะเดินอยู่ที่สีลมกันเต็มไปหมด

ในแง่ของธุรกิจ True จะได้อะไร? ดูเผินๆ เหมือนไม่ได้อะไร แต่ความจริงแล้ว True สามารถต่อยอดด้วยธุรกิจโฆษณาออนไลน์แบบ Location Based Service ได้เลย เช่น ถ้าผู้ใช้กำลังออนไลน์อยู่ที่ซอยทองหล่อ เขาจะเห็นโฆษณาของร้านอาหารในทองหล่อแสดงขึ้นมาในหน้าล็อกอินเข้าใช้บริการ หรืออาจจะต่อยอดสู่ระดับโลกด้วยการเป็นพันธมิตรกับ Google แล้วเชื่อมต่อเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สายทั้งหมดเข้ากับระบบ Google Search และ Google AdWords เมื่อผู้ใช้เข้า Google และค้นหาสิ่งที่ต้องการ ผลลัพธ์จะแสดงโฆษณาที่อ้างอิงจากพื้นที่ได้ด้วย เช่น ถ้าผู้ใช้อยู่ที่สยามและเข้า Google เพื่อค้นหาคำว่ารองเท้า ผลลัพธ์จะแสดงโฆษณาร้านขายรองเท้าในสยามขึ้นมาเป็นอันดับแรก เมื่อผู้ใช้คลิกที่โฆษณา True ก็อาจจะได้รับส่วนแบ่งจาก Google ด้วย

นอกจากนี้ True คงจะเอาธุรกิจอื่นๆ ที่ตัวเองมีอยู่มา Convergence กับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สาย ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักที่ True ใช้อยู่ เช่น การต่อยอดให้กับบริการ Social Network อย่าง miniHOME ให้มีลูกเล่นมากขึ้น ผู้ใช้สามารถบอกให้เพื่อนๆ รู้ได้ทันทีว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหนในกรุงเทพ เพียงแค่ออนไลน์และล็อกอินเข้าเครือข่ายอินเทอร์เน็ตไร้สาย

ในด้านของการแข่งขัน การเปิดให้ใช้ฟรีแบบนี้ย่อมทำให้คู่แข่งด้านบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายอย่าง KSC หรือ TOT ต้องลำบากขึ้น บ่อยครั้งที่เวลาไปอยู่ในอาคารสำนักงานในย่านธุรกิจ เมื่อเปิดคอมพิวเตอร์แล้วจะพบ Hotspot เป็นจำนวนมากเพราะรัศมีทำการซ้อนทับกันอยู่ จากนี้ไปผู้ใช้ก็คงเลือกใช้ Hotspot ของ True เป็นหลัก ขณะที่ของรายอื่นกลายเป็นเพียงตัวสำรองที่จะถูกใช้ถ้า True มีปัญหาขัดข้องใช้งานไม่ได้

นอกจากคู่แข่งทางธุรกิจแล้ว คู่แข่งอย่างเครือข่ายไร้สายภาคประชาชนก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย เครือข่ายนี้มีแนวคิดว่าให้ผู้ที่มี Wireless Access Point ไม่ว่าจะที่บ้านหรือที่บริษัท ยินยอมเปิดให้ผู้อื่นเข้ามาแชร์ใช้อินเทอร์เน็ตของตัวเองได้ เพื่อที่ตัวเองจะได้ใช้อินเทอร์เน็ตที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านหรือบริษัทของตัวเองได้ด้วย แต่เมื่อ True มีบริการอินเทอร์เน็ตไร้สายฟรีขึ้นมา เครือข่ายไร้สายภาคประชาชนก็คงเติบโตได้ยาก

ท้ายที่สุดนี้ ถ้ามองไกลๆ ไปที่อนาคต การมี Hotspot ครอบคลุมตัวเมืองก็เหมือนการมี Cell Site โทรศัพท์มือถือ True อาจกลายเป็นผู้ให้บริการ IP Mobile Phone โดยเปลี่ยนโมเดลธุรกิจจากการเก็บเงินผู้ใช้แบบในอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือปัจจุบัน กลายเป็นการให้บริการฟรีโดยที่ผู้ใช้จะได้ยินเสียงรอสายเป็นสปอตโฆษณาแทน

ถ้าอ่านแล้วชอบ ฝากแชร์ด้วยนะครับ
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •