4 เทรนด์เทคโนโลยียุคใหม่ที่ผู้บริหารต้องไม่ละเลย

สภาพแวดล้อมทางธุรกิจกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากการเกิดขึ้นของ Digital, Mobile, Social และ Cloud การเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดอะไรขึ้น? และโลกกำลังมุ่งหน้าไปทางไหน? บทความนี้มีคำตอบให้ครับ

CMO Infographic

คลิกเพื่อดูรูปขยาย

องค์ประกอบของเศรษฐกิจใหม่มี 3 ส่วน ส่วนแรกคือเทคโนโลยีใหม่ ทุกวันนี้จะเห็นได้ว่าผู้คนเชื่อมต่อถึงกันตลอดเวลา จากการสำรวจของ Pew Research Center ระบุว่าประชากรทั่วโลกมีทั้งหมดกว่า 7 พันล้านคน โดยในปี 2555 มีประชากร 6 พันล้านคนที่ใช้โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสารไร้สาย ส่วนนิตยสาร The Economist คาดการณ์ว่าจำนวนอุปกรณ์ต่างๆ ที่สามารถเชื่อมต่อกันได้จะมีจำนวนถึง 1 หมื่นล้านเครื่องภายในปี 2563 และจากงานวิจัยของ Morgan Stanley Research เมื่อปี 2554 ระบุว่า 90% ของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ จะเก็บอุปกรณ์สื่อสารไว้ใกล้ตัวตลอดเวลา

ส่วนที่สองคือตลาดใหม่ ด้วยเทคโนโลยีใหม่ทำให้เกิดพื้นที่ตลาดรูปแบบใหม่ขึ้นมา อย่างในประเทศอิตาลี University of Bari ได้พัฒนาโซลูชั่นบนเทคโนโลยี Cloud ที่ช่วยให้ชาวประมงสามารถป้อนข้อมูลชนิดและปริมาณของปลาที่จับได้แบบเรียลไทม์จากบนเรือเลย และมีการขายบน Virtual Fish Market ที่ผู้ซื้อเข้ามาดูและสั่งสินค้าได้ทันที ตลาดใหม่นี้ช่วยให้ชาวประมงขายปลาได้หมดก่อนเรือเข้าถึงฝั่ง ชาวประมงจึงมีรายได้เพิ่ม 25% และลูกค้าสามารถรับสินค้าได้ทันทีที่เรือถึงฝั่ง ไม่ต้องรอขนส่งไปตลาดปลาเหมือนสมัยก่อน ทำให้เวลาที่สินค้าไปถึงมือผู้บริโภคลดลงถึง 70%

ส่วนที่สามคือลูกค้าใหม่ พฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ลูกค้าบางคนค้นหาข้อมูลสินค้าทางเว็บไซต์ก่อน จากนั้นไปดูสินค้าจริงที่ร้าน แต่กลับสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์เพราะราคาถูกกว่า บางแบรนด์กำหนดกลยุทธ์การตลาดในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้แบบเจาะจงตัวมากขึ้น ด้วยการเก็บข้อมูลจากทุกจุดที่สัมผัสกับลูกค้า แล้วนำข้อมูลต่างๆ มาวิเคราะห์เพื่อนำเสนอโปรโมชั่นที่ตรงใจลูกค้าเฉพาะรายได้

องค์ประกอบทั้ง 3 ส่วนทำให้เกิดปรากฎการณ์ใหม่คือมีข้อมูลจำนวนมหาศาลเกิดขึ้น ซึ่งเรียกว่า Big Data ข้อมูลเหล่านี้มาจากองค์กรต่างๆ และผู้บริโภคแต่ละคนที่แบ่งปันกันตลอดเวลา มีการประมาณการว่าในแต่ละวันมีข้อมูลใหม่ที่สร้างขึ้นทั่วโลกถึง 2.5 Quintillion ไบต์ หรือเท่ากับ 2,500,000,000,000,000,000 ไบต์ นี่ถือความท้าทายของธุรกิจยุคใหม่ว่าจะใช้ประโยชน์จากข้อมูลปริมาณมหาศาลนี้ได้อย่างไร
ทีนี้ลองมารู้จักกับ 4 เทรนด์เทคโนโลยีที่กำลังทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจยุคใหม่กัน

Big Data และ Analytics – ทรัพยากรแหล่งใหม่ของโลก

อย่างที่บอกไปว่าทุกวันนี้มีข้อมูลเกิดใหม่จำนวนมหาศาล ข้อมูลเหล่านี้มีความหลากหลาย เช่น ข้อมูลที่ผู้ใช้ Social Media โพสต์ขึ้นมา ภาพ วิดีโอ ข้อมูลเกี่ยวกับการขาย โปรโมชั่น การซื้อสินค้าทางออนไลน์ อีเมล ข้อมูลจากโทรศัพท์มือถือ ข้อมูลจาก GPS และอื่นๆ อีกมากมาย จึงมีคำถามเกิดขึ้นว่าเราจะใช้ประโยชน์จากข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างไร

จากการสำรวจพบว่า 89% ของผู้บริหารระดับ CEO ต้องการข้อมูล Insight ที่แม่นยำ ผู้บริหารระดับนโยบายจึงต้องการเครื่องมือ ซอฟต์แวร์ หรือโซลูชั่นในการรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ หรือ Data Analytics รวมถึงต้องอาศัย Data Scientist หรือผู้เชี่ยวชาญข้อมูลที่ช่วยเปลี่ยนข้อมูลให้เป็น Insight ซึ่ง Gartner คาดการณ์ว่าในปี 2558 ทั่วโลกจะต้องการผู้เชี่ยวชาญด้าน Big Data มากถึง 4.4 ล้านคน แต่ทั่วโลกมีผู้ที่มีความรู้และประสบการณ์ด้าน Big Data เพียง 1 ใน 3 เท่านั้น

มีกรณีศึกษาของโรงพยาบาลกรุงเทพที่นำเทคโนโลยีมาใช้ในการเข้าถึงและเชื่อมโยงระบบสารสนเทศของโรงพยาบาลในเครือ 29 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าและผู้ป่วยได้รับบริการที่ตรงความต้องการเฉพาะบุคคลมากขึ้น เพราะโรงพยาบาลสามารถนำข้อมูลผลการตรวจร่างกายของลูกค้าแต่ละรายมาวิเคราะห์สถิติที่บ่งชี้โรคที่เกิดขึ้นในอดีตถึงปัจจุบันได้ ส่วนโรงพยาบาลก็ได้ประโยชน์จากการใช้ข้อมูลเพื่อวางแผนการลงทุน การบริหารเงิน การจัดการ และการสร้างสรรค์บริการใหม่ๆ ที่เหมาะกับลูกค้าของตนเองได้

Social Network – ไลน์การผลิตแบบใหม่

Social Network เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้คนพูดคุยกันและสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างกันได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ซึ่งองค์กรก็สามารถใช้ Social Network เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างพนักงานทั้งองค์กรไม่ว่าจะอยู่แผนกไหนหรือสำนักงานสาขาใดก็ตาม นอกจากนี้ Social Network ยังใช้สร้างและกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ด้วย ทำให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีต่อแบรนด์

มีกรณีศึกษาของ CEMEX ซึ่งเป็นบริษัทวัสดุก่อสร้างที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก สามารถเปิดตัวผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปในระดับโลกโดยใช้เวลาเพียง 1 ใน 3 ของที่คาดการณ์ไว้ ด้วยการสร้าง Social Network ภายในองค์กรในปี 2552 เพื่อให้พนักงานใน 50 ประเทศทั่วโลกใช้พูดคุยกัน ภายในหนึ่งปีมีพนักงานกว่า 20,000 คนที่เข้ามาพูดคุยบนเครือข่ายนี้ มีการแชร์ความรู้และไอเดียกันทำให้บริษัทสามารถบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Mobility – ปัจจัยที่ 5 ในชีวิตคนยุคใหม่

เทคโนโลยีอุปกรณ์สื่อสารไร้สายกำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2556 จะมีอุปกรณ์ไร้สายจำนวนหมื่นล้านเครื่องในตลาด และยอดขายทางอุปกรณ์ไร้สายขึ้นมาอยู่ที่ 13.3% ในไตรมาสแรกปี 2555 จาก 7% ในปี 2554

Gartner Research ระบุว่าในปี 2559 จะมีจำนวน Smartphone ทั่วโลกรวม 1.6 พันล้านเครื่อง และในปี 2557 คนทำงาน 80% จะมีอุปกรณ์สื่อสารไร้สายคนละ 2 เครื่องสำหรับใช้งานกับระบบของบริษัทหรือใช้ข้อมูล ขณะที่งานวิจัยของ Forrester ระบุว่าในปี 2559 พนักงานทั่วโลก 350 ล้านคนจะมี Smartphone ใช้

นักวิจัยหลายสำนักทั่วโลกคาดการณ์ว่าในปี 2559 ผู้ป่วย 3 ล้านคนทั่วโลกจะใช้อุปกรณ์ติดตามตัวหรือ Remote Monitoring Devices เช่น เครื่องติดตามการเต้นของหรือการทำงานของหัวใจ เครื่องวัดความดันโลหิต เครื่องวัดน้ำตาลในเลือด เป็นต้น ซึ่งจะป้อนข้อมูลเข้าสู่ Smartphone และส่งต่อไปยังแพทย์

Air Canada ต้องการเป็นผู้นำด้านการให้บริการแบบ Self-service จึงได้ตั้ง “Innovation Team” ขึ้นเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมและบริการแบบ Self-service ที่ตรงใจผู้โดยสารยุคใหม่มากขึ้น โดยพัฒนาบริการต่างๆ บน iPhone และ BlackBerry ที่ช่วยให้ผู้โดยสารดูตารางการบิน จองตั๋ว ดาวน์โหลดบอร์ดดิ้งพาส เช็คอิน ได้ด้วยตัวเอง ช่วยให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกมากขึ้น และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุนให้กับ Air Canada ถึง 80%

Cloud Computing

เมื่อเทคโนโลยี Digital, Social และ Mobile กลายเป็นเทคโนโลยีหลักในการใช้ชีวิตและทำธุรกิจ Cloud ก็ถือเป็นจิ๊กซอว์ตัวสำคัญที่ทำให้เทคโนโลยีเหล่านี้ทำงานและจัดการกับ Big Data ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความยืดหยุ่นสูง สามารถรองรับปริมาณข้อมูลมหาศาล และรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้สะดวก
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้พัฒนาระบบการศึกษามิติใหม่ UTCC Hybrid Learning System ช่วยให้นักศึกษาเข้าถึงและใช้สื่อการเรียนการสอนได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยคอมพิวเตอร์ในทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น iPad หรือ iPhone ที่ใช้ iOS หรือแท็บเล็ตที่ใช้ระบบ Android หรือ Windows โดยสามารถอัพเดตข้อมูลได้เองโดยไม่ต้องยกเครื่องมาให้เจ้าหน้าที่ไอทีของมหาวิทยาลัยช่วย

ถ้าสนใจอ่านข้อมูลเกี่ยวกับกรณีศึกษาต่างๆ เพิ่มเติม สามารถอ่านได้จากลิงก์เหล่านี้ครับ

ถ้าอ่านแล้วชอบ ฝากแชร์ด้วยนะครับ
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

, , ,