แต่งคอนโด Sense พหลโยธินในสไตล์ Santorini เอารีสอร์ทหัวหินมาไว้ที่สะพานควาย

หลังจากที่รีวิวห้องตัวเองในคอนโด Sense พหลโยธินไปเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว จากนั้นก็เริ่มทำ built-in และตกแต่งห้อง ถึงตอนนี้ห้องผมเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ได้เวลาเอามาเผยโฉมให้ชมกัน

ผมขอแบ่งเนื้อหาในบล็อกนี้เป็น 3 ส่วนคือ 1. built-in 2. ม่านและมู่ลี่ และ 3. เฟอร์นิเจอร์-เครื่องใช้ไฟฟ้า-ของใช้ ซึ่งทั้ง 3 ส่วนประกอบเข้าด้วยกันทำให้ห้องนี้มีบรรยากาศแบบ Santorini ได้

Built-in

ตอนที่คอนโดยังสร้างไม่เสร็จ ผมยังไม่ได้เห็นห้องตัวเองว่าเป็นยังไง ตอนนั้นก็ยังสองจิตสองใจว่าควรจะทำ built-in ในห้องตัวเองดีมั้ย หรือว่าจะซื้อพวก SB, IKEA มาติดเอาเองดี แต่พอได้เห็นห้องจริงและพบว่ามีเสาที่ห้องนั่งเล่น ก็เลยตัดสินใจว่าทำ built-in เลยดีกว่า

ผนังห้องนั่งเล่นฝั่งทิศตะวันตก

ผู้รับเหมาทำ built-in ที่ผมใช้บริการชื่อคุณอ๊อด ซึ่งได้รับการแนะนำมาจากเจ้าของโครงการ Sense เอง คุณอ๊อดเป็นคนทำห้องตัวอย่างของ Haven Luxe ด้วย ผมไปเห็นของจริงแล้วถูกใจ ก็เลยให้คุณอ๊อดมาทำห้องผมให้

นัดคุณอ๊อดมาดูที่ห้อง ผมก็เล่าแนวคิดของผมให้คุณอ๊อดฟังว่าผมค่อนข้างเน้นเรื่องฟังก์ชั่นการใช้งาน เน้นเก็บของได้เยอะๆ อยากมีตู้สำหรับปิดเสาห้องนั่งเล่น อยากได้โต๊ะทำงานที่วางคอมพิวเตอร์ PC ได้ อยากได้เตียงแบบที่มีลิ้นชักเก็บของใต้เตียง ผมไม่ค่อยมีหัวเรื่องความสวยงามเท่าไหร่ แต่ก็บอกไปว่าอยากได้โทนสีที่ดูแล้วสดใสสดชื่น แต่ไม่ถึงกับจัดจ้าน ชอบสีประมาณเขียวๆ ฟ้าๆ

หลังจากที่คุณอ๊อดรับโจทย์ผมไป ก็ทำออกมาเป็น 3D ให้ดูภาพบรรยากาศ เห็นตอนแรกแล้วรู้สึกว่าสวยเลยล่ะ แต่ผมยังไม่สรุปเรื่องสีตอนนี้ ไว้รอไปเลือกสีอีกทีตอนที่ติดตั้งชิ้นงานแล้ว

แบบ 3D สำหรับ built-in ห้องนั่งเล่น

แบบ 3D สำหรับ built-in ห้องนั่งเล่น

แบบ 3D สำหรับ built-in ห้องนอน

แบบ 3D สำหรับ built-in ห้องนอน

เมื่อผมพอใจกับแบบ 3D แล้ว คุณอ๊อดก็ส่งทีมงานที่เป็นคนเขียนแบบมาวัดขนาดห้องผม พร้อมกับทำออกมาเป็นแบบสำหรับสั่งผลิต

แบบตกแต่งภายใน

ผมมีการแก้แบบพอสมควรเพื่อให้เหมาะกับฟังก์ชั่นการใช้งานจริงของผมมากที่สุด เช่น

  • ชั้นวางของในห้องนั่งเล่น ผมขอให้ชั้นบนสุดมีบานปิด เพราะความที่มันอยู่สูง ถ้าไม่มีบานปิดก็จะมีฝุ่นเกาะ และผมขี้เกียจปีนขึ้นไปเช็ดฝุ่น
  • โต๊ะทำงาน ผมขอย้ายชั้นเก็บของแนวตั้งจากด้านซ้ายไปอยู่ด้านขวา ซึ่งทำให้โต๊ะดูไม่สมดุลย์ หนักไปทางขวา เพราะด้านล่างขวาของโต๊ะก็เป็นช่องใส่คอมพิวเตอร์อยู่แล้ว แต่ที่ผมทำแบบนี้เพราะถ้าไม่ย้ายฝั่ง บนโต๊ะมีจอมอนิเตอร์ที่จะโดนชั้นวางของด้านซ้ายเบียด ขณะที่ด้านล่างโต๊ะมีช่องใส่คอมอยู่ทางขวา เวลาผมนั่งทำงานอาจจะต้องนั่งเอียงๆ ไม่ตรงจอก็ได้
  • ชั้นวางของ 3 ชั้นตรงมุมห้องนอนที่ติดกับประตูระเบียง ผมตัดออก เพราะจะเอามุมนั้นไว้รวบผ้าม่าน
  • ชั้นวางของตรงหน้าต่างเล็กในห้องนอน ผมตัดออก เพราะจะเอามุมนั้นไว้เก็บเตารีดไอน้ำแบบมีเสาแขวน

จะเห็นได้ว่าห้องผมเล็กจนไม่รู้จะเอาโต๊ะเครื่องแป้งไปไว้ตรงไหน แต่ที่น่าประทับใจคือช่างเขียนแบบมีความคิดสร้างสรรค์มาก และช่วยให้ผมมีโต๊ะเครื่องแป้งในห้องนอนได้ เดี๋ยวจะเฉลยว่าทำยังไง

เมื่อตกลงแบบกันเรียบร้อยแล้ว คุณอ๊อดก็เสนอราคามา ต่อรองกันสักพักจนเคาะตัวเลขได้ จากนั้นก็เซ็นสัญญา โดยผมขอแบ่งจ่าย 3 งวด 30/30/40 โดยงวดแรกจ่ายทันทีหลังจากทำสัญญา งวดสองจ่ายเมื่องานเสร็จประมาณ 60% และงวดสุดท้ายเมื่องานเสร็จสมบูรณ์

หลังจากเซ็นสัญญาและจ่ายงวดแรกแล้ว คุณอ๊อดก็จะสั่งผลิตชิ้นงานในโรงงาน โดยทาสีรองพื้นมาจากโรงงานเลย ก็เลยใช้เวลานานหน่อย ประมาณ 2 สัปดาห์ กว่าชิ้นงานจะถูกนำมาติดตั้งในห้อง

ชิ้นงาน built-in ก่อนประกอบ

ชิ้นงานผลิตด้วยไม้โครงซึ่งมีความแข็งแรงและทนความชื้นได้ดีกว่าปาร์ติเกิลบอร์ด (แน่นอนว่าราคาก็สูงกว่า) มีการทาเชนไดร์ท์เพื่อกันปลวก ทาอะไรสักอย่างที่เป็นสีเหลืองและสีแดงเพื่อให้ผิวเรียบ เวลาลูบแล้วจะไม่รู้สึกว่ามีเสี้ยนเลย เมื่อเรียบดีแล้วก็ค่อยพ่นสี ซึ่งเป็นวิธีการเดียวกับการทำสีรถยนต์ เวลาพ่นสีต้องไม่มีฝุ่นเกาะ และถ้าฝนตกอากาศชื้นก็พ่นไม่ได้ด้วยเพราะสีจะลอยขึ้นฝ้าหมด ซึ่งห้องผมทำตอนฤดูฝนพอดี ทำให้เสร็จช้ากว่ากำหนดพอสมควร แต่เพื่อของคุณภาพดีก็ต้องยอมรอหน่อย

โต๊ะทำงาน built-in กำลังทาสีเหลือง

โต๊ะเครื่องแป้ง built-in กำลังทาสีแดง

ทีนี้ระหว่างที่ยังไม่ได้พ่นสีจริง ผมก็เริ่มตกผลึกเรื่องธีมสีที่จะใช้ในห้องตัวเอง ผมอยากได้โทนสีแบบ Santorini ที่เน้นขาว (ก้อนเมฆและฟองคลื่น) ครีม (หาดทราย) ฟ้า (ท้องฟ้าและทะเล) เพื่อให้บรรยากาศของห้องมีกลิ่นอายของทะเล มันคงดีไม่น้อยถ้าเราได้ใช้ชีวิตทุกวันอยู่ในห้องที่บรรยากาศเหมือนรีสอร์ทริมทะเลที่หัวหิน นอกจากนี้คอนโด Sense มีธีมสีหลักคือครีม-น้ำตาล-เทา ซึ่งก็ดูหรูและขรึมดี แต่ด้วยความที่ทุกห้องก็เป็นสไตล์นี้หมด เห็นบ่อยๆ เข้าผมก็เริ่มเบื่อ เลยคิดว่าถ้าโทนสีห้องตัวเองฉีกแนวออกจากห้องอื่นบ้างก็ดีเหมือนกัน ถึงแม้ว่าจะได้ธีม Santorini แล้ว แต่พอถึงเวลาต้องเลือกสีจริง คุณอ๊อดก็จะเอาแคตาล็อกสีของ TOA มาให้เลือก ซึ่งมีสีเป็นพันรหัสเลย แค่สีโทนฟ้าก็เป็นร้อยแล้ว ตาลายมาก การเลือกสีนี่เป็นงานยากสำหรับผู้ชายอย่างผมจริงๆ

แคตาล็อกสี TOA

เมื่อเลือกสีเรียบร้อยแล้ว ก็ปล่อยให้ช่างทำงานไปจนเสร็จ และต่อไปนี้คือผลงานที่เสร็จสมบูรณ์แล้วครับ

ชิ้นแรกคือชั้นวางของฝั่งซ้ายของเสาห้องนั่งเล่น มีการใช้สีขาวและครีมผสมกันเพื่อให้ดูมีมิติ ช่องด้านบนสุดและล่างสุดมีบานปิดแบบกดแล้วเด้ง

ชั้นวางของ built-in ในห้องนั่งเล่น

ชิ้นที่สองเป็นชั้นวางของและตู้เก็บรองเท้าอยู่ฝั่งขวาของเสาห้องนั่งเล่น ตู้เก็บรองเท้าเป็นลิ้นชักเลื่อนออกมาได้ มี 3 ชั้น เก็บได้ชั้นละ 2 คู่

ชั้นวางของและตู้เก็บรองเท้า built-in ในห้องนั่งเล่น

โต๊ะทำงานเริ่มเห็นสีสันของ Santorini ด้วยกระจกโค้ทสีฟ้า บานโต๊ะพ่นสีไฮกรอสเป็นสีขาวมุกแคมรี่ ตอนกลางคืนเปิดไฟแล้วจะเห็นประกายระยิบระยับเลย สวยมาก มีปลั๊กไฟ 2 จุด คือบนโต๊ะตามที่เห็นในรูป และตรงช่องใส่คอมพิวเตอร์ด้านล่าง โต๊ะหน้ากว้าง 140 เซนติเมตร กว้างพอที่จะวางจอคอมตรงกลาง ด้านขวาวางเอกสารสำหรับเขียนได้ ด้านซ้ายวางโน้ตบุ๊กได้อีกตัว สะดวกมากครับ

โต๊ะคอมพิวเตอร์ built-in

ชั้นวางโทรทัศน์ก็มีกระจกโค้ทสีฟ้าเช่นกัน หน้าบานลิ้นชักพ่นสีไฮกรอส บานชั้นวางทีวีเป็นหินอ่อนสีครีม สวยหรูดูดี สามารถวางโทรทัศน์ 42 นิ้วได้พอดี

ชั้นวางโทรทัศน์ built-in

มาดูห้องนอนกันบ้าง พระเอกของห้องนี้คือหัวเตียง ถ้าใครจำได้ ห้องผมมีหน้าต่างเล็ก 2 บาน แต่ตอนนี้ผมทำหัวเตียงปิดหน้าต่าง 1 บานไปเลย ชิ้นบนของหัวเตียงพ่นสีครีมและเซาะร่องทาสีดำ ซ่อนหลอดไฟ T5 ไว้ด้านใน ตอนกลางคืนเปิดไฟแล้วจะเรืองแสงออกมา สวยสุดๆ ชิ้นกลางเป็นกระจกโค้ทสีฟ้า ชิ้นล่างเป็นเบาะสีครีมสำหรับใช้นั่งพิงหลังอ่านหนังสือได้ โดยด้านบนเบาะเป็นหินอ่อนสีครีมไว้วางของเล็กๆ น้อยๆ

หัวเตียง built-in

เตียง King Size ขนาด 6 ฟุต มีลิ้นชักใต้เตียง 2 ชิ้น

เตียง built-in

ถ้าหัวเตียงคือพระเอกของห้องนอน ตำแหน่งนางเอกต้องยกให้ชั้นวางของปลายเตียงครับ ว่าแต่มันมีอะไรพิเศษ? ที่ผมเล่าไปตอนแรกว่าห้องเล็กเกินกว่าจะวางโต๊ะเครื่องแป้งได้ ผมก็เลยทำชั้นวางของปลายเตียงให้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งไปด้วยเลย โดยให้นั่งบนปลายที่นอนเวลาที่ต้องการแต่งหน้า มีกระจกเงาบานใหญ่ให้ ด้านบนกระจกซ่อนหลอดไฟ T5 ด้านขวามีปลั๊กไฟสำหรับเสียบไดร์เป่าผมได้ ชั้นวางของด้านล่างกระจกเป็นหินอ่อนสีครีม ชั้นบนสุดของชั้นวางมีบานปิด ส่วนชั้นล่างสุด (ไม่เห็นในรูป) เป็นลิ้นชัก

ชั้นวางของปลายเตียงและโต๊ะเครื่องแป้ง built-in

ทีนี้บางคนรู้สึกว่าการมีกระจกเงาอยู่ปลายเตียงแบบนี้ เวลานอนอาจรู้สึกหลอน ความพิเศษของโต๊ะเครื่องแป้งนี้ที่คนเขียนแบบแนะนำผมมาก็คือ ผมสามารถเลื่อนกระจกเงาไปซ่อนไว้ด้านหลังชั้นวางของฝั่งซ้ายมือได้ครับ เป็นไงล่ะ เจ๋งสุดๆ ไปเลย

โต๊ะเครื่องแป้ง built-in ซ่อนกระจกเงา

มาดูห้องสุดท้ายคือห้องน้ำ เป็นห้องที่ผมไม่ทำสไตล์ Santorini แต่ใช้โทนสีเดิมคือขาว-ครีม-เทา-น้ำตาล เพราะถ้าจะทำโทนสี Santorini ก็จะต้องเปลี่ยนสีผนังเทาอมน้ำตาลไปเลย ซึ่งผมไม่อยากให้เรื่องมันใหญ่โตไปมาก เลยเก็บโทนแบบเดิมไว้ แล้วใส่ของเพิ่มเข้าไปให้เป็นไปตามโทนเดิม โดยตอนแรกผมว่าจะทำตู้เก็บของหลังกระจกเงา แต่เนื่องจากตำแหน่งหัวก๊อกอ่างล้างหน้าอยู่ค่อนข้างติดกับผนัง ถ้ามีตู้ยื่นออกมา กลัวเวลาล้างหน้าแล้วหัวจะกระแทกกระจก และตอนแรกว่าจะทำตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้า แต่ถ้าทำแล้วจะไม่มีที่วางตะกร้าผ้าใช้แล้ว สุดท้ายก็เลยปล่อยโล่งไว้เหมือนเดิม สิ่งที่ทำเพิ่มก็คือติดหินอ่อนสีดำประกายทองรอบอ่างล้างหน้า และทำชั้นวางของกระจก Tempered Glass 3 ชั้น ช่วยให้มีที่วางของเพิ่มขึ้น

ชั้นวางของ built-in ในห้องน้ำ

นอกจากนี้ผมก็ไปซื้อราวแขวนผ้ากับตะขอแขวนผ้า Hafele มาให้คุณอ๊อดติดเพิ่ม เพราะของเดิมที่โครงการให้มาเป็นอันเล็กๆ แค่อันเดียว ซึ่งไม่พอแขวน

ราวแขวนผ้า Hafele

ตะขอแขวนผ้า Hafele

ลองดูบรรยากาศห้องตอนกลางคืนบ้างว่าเป็นยังไง เริ่มจากห้องนั่งเล่นก่อน

โต๊ะทำงาน built-in ตอนเปิดไฟ

ชั้นวางโทรทัศน์ built-in ตอนเปิดไฟ

ชั้นวางของ built-in ในห้องนั่งเล่นตอนเปิดไฟ

ดูห้องนอนตอนเปิดไฟบ้าง ภูมิใจนำเสนอเพราะสวยจริงๆ หัวเตียงเรืองแสงได้ ไฟบนฝ้าส่องไปที่หัวเตียง สวิทช์ไฟเป็นดิมเมอร์ที่สามารถหมุนหรี่หรือเร่งความสว่างได้

หัวเตียง built-in ตอนเปิดไฟ

โต๊ะเครื่องแป้ง built-in ตอนเปิดไฟ

ส่วนห้องน้ำตอนเปิดไฟก็ดูระยิบระยับขึ้นด้วยหินอ่อนและชั้นวางของกระจก

ห้องน้ำ built-in ตอนเปิดไฟ

ทั้งหมดนี้คือ built-in ที่คุณอ๊อดทำให้ผม มีบางจุดที่ผมรู้สึกว่าตัดสินใจผิดอยู่บ้าง แต่โดยรวมออกมาถือว่าดูดีและถูกใจครับ ใครกำลังหาผู้รับเหมาทำงาน built-in แบบนี้ ก็ลองใช้บริการคุณอ๊อดดูได้ครับ โทร 08 6376 6630 บอกได้ว่ารู้จักจากคุณบอยคอนโด Sense

ม่านและมู่ลี่

ห้องผมมีกระจกที่เห็นวิวข้างนอก (และข้างนอกมองเห็นข้างใน) อยู่ทุกห้อง ไม่เว้นแม้แต่ห้องน้ำ เลยต้องหาอะไรมาปิดกันโป๊หน่อย ซึ่งเพื่อนบ้านในคอนโดแนะนำให้รู้จักกับคุณหลีซึ่งรับติดตั้งผ้าม่านและวอลเปเปอร์ ตอนแรกผมคิดว่าจะติดวอลเปเปอร์ด้วยดีมั้ย แต่พอทำ built-in ออกมาแล้ว แทบไม่เหลือที่ให้ติด รวมถึงความเป็นธีม Santorini ซึ่งผมคิดว่าน่าจะปล่อยผนังให้เปลือยไว้น่าจะสวยกว่า ก็เลยติดแค่ม่านกับมู่ลี่

ดูในห้องครัวกันก่อน เนื่องจากผมทำอาหาร เลยตัดม่านที่เป็นผ้าออกไปเลย เพราะคราบน้ำมันเกาะแล้วจะทำความสะอาดยาก ส่วนมู่ลี่ผมก็ไม่ค่อยชอบตรงที่หน้าต่างห้องครัวเป็นจุดที่จะต้องรูดขึ้นลงบ่อยๆ แต่มู่ลี่ที่รูดบ่อยๆ มักมีปัญหาติดขัด รูดแล้วสองข้างไม่เสมอกัน เลยเหลือตัวเลือกแค่ม่านปรับแสงกับม่านม้วน ด้วยความที่ผมอยากให้ห้องดูมิดชิดมีความเป็นส่วนตัวหน่อย (จะแก้ผ้าเดินในห้องว่างั้นเหอะ) สุดท้ายก็เลือกม่านม้วน แต่ด้วยความที่ม่านม้วนมีแต่สีพื้น ไม่มีลวดลายแบบผ้าม่าน ก็เลยใช้ลูกเล่นเป็นม่านม้วน 3 ชุดตามกรอบหน้าต่าง 3 กรอบ แล้วเลือกสีเป็นฟ้า-ขาว-ฟ้า ให้ดูเป็น Santorini ได้ออกมาตามรูปครับ

ม่านม้วนในห้องครัว

ม่านม้วนในห้องครัว

ม่านม้วนในห้องครัวตอนเปิดไฟ

เวลามองจากหน้าคอนโดจะเห็นภาพแบบนี้

ม่านม้วนในห้องครัวเวลามองจากหน้าคอนโด

ห้องนอนมีประตูระเบียงและหน้าต่างเล็ก ผมเลือกใช้ผ้าม่านลายตั้งโทนขาว-ครีม-ฟ้า-น้ำเงิน ซึ่งเป็นสไตล์ Santorini เข้ากับหัวเตียงเลย และเป็นผ้าแบบที่ราคาแพงที่สุดที่คุณหลีมี ติดเสร็จแล้วดูสวยมากๆ ส่วนหน้าต่างเล็กใช้มู่ลี่โดยเล่นเฉดสีขาว-ครีม-ฟ้า-น้ำเงินเช่นกัน

ผ้าม่านในห้องนอน

ผ้าม่านในห้องนอนตอนเปิดไฟ

มู่ลี่ในห้องนอน

ส่วนหน้าต่างห้องน้ำมีตัวเลือกเดียวคือมู่ลี่ ตอนแรกผมอยากได้มู่ลี่แบบที่รูดเปิดได้สองทาง คือไม่ใช่แค่เปิดจากล่างขึ้นบน แต่เปิดจากบนลงล่างได้ด้วย ซึ่งมีขายในเยอรมัน ที่นั่นเรียกว่า Plissee สาเหตุที่ผมอยากได้แบบนี้เพราะผมอยากปิดมู่ลี่จากระดับคอผมลงไป แต่อยากเปิดระดับหัวเพราะอยากดูวิวข้างนอกตอนอาบน้ำ แต่เสียดายที่ในไทยยังไม่มีที่ไหนทำขาย ก็เลยใช้มู่ลี่ธรรมดา แน่นอนว่าเล่นเฉดสีให้เข้ากับห้องน้ำด้วย โดยใช้เฉดขาว-ครีม-น้ำตาล

มู่ลี่ในห้องน้ำ

งานของคุณหลีถือว่าใช้ได้เลย มีลูกบ้านในคอนโดผมราวๆ 10 ห้องแล้วที่ใช้บริการคุณหลี ซึ่งทุกคนแฮปปี้กับงานที่ออกมา ใครสนใจอยากใช้บริการ ลองเข้าไปดูตัวอย่างผลงานได้ที่ Facebook ART TRADE ผ้าม่าน วอลเปเปอร์ และติดต่อคุณหลีได้ที่เบอร์โทร 08 6998 7111 บอกได้ว่ารู้จักจากคุณบอยคอนโด Sense

เฟอร์นิเจอร์-เครื่องใช้ไฟฟ้า-ของใช้

มาถึงองค์ประกอบสุดท้ายของความเป็นคอนโดสไตล์ Santorini ชิ้นแรกที่อยากให้ดูคือโซฟา ด้วยความที่ผมอยากได้โซฟาเบดที่กางออกมาเป็นเตียงได้ จะได้เอาไว้นอนดูโทรทัศน์ ซึ่งตอนแรกผมไปเห็นที่ IKEA แล้วชอบมาก อุตส่าห์ขับรถไป 2-3 รอบเพื่อวัดขนาดอย่างละเอียดว่าจะพอดีกับห้องผมหลังทำ built-in มั้ย แต่ปรากฎว่าพอกางเตียงออกมาแล้วยาวเกินไป มันไปเกยกับลิ้นชั้นตรงชั้นวางโทรทัศน์ ก็เลยเปลี่ยนใจไปเดินงานเฟอร์นิเจอร์ที่ศูนย์สิริกิตติ์ มีร้านขายโซฟามาออกงานหลายร้านมาก แต่ไปเจอร้านนึงที่เห็นคนเยอะ ชื่อร้านศิริมาเฟอร์นิเจอร์ เลยลองเข้าไปคุยดู โซฟาร้านนี้สามารถสั่งทำตามขนาดที่ต้องการได้ ให้เข้าไปวัดพื้นที่หน้างานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย มีลายผ้าให้เลือกเป็นร้อยแบบ ซึ่งตอนแรกก็หาลายที่เป็นโทน Santorini ไม่เจอ เลยใช้วิธีประยุกต์โดยให้ตัวโครงโซฟาและหมอนเป็นสีฟ้า ส่วนเบาะนั่งเป็นสีขาว ทำเสร็จออกมาน่ารักมาก ตอนที่เริ่มเข้ามานอนหลังทำ built-in เสร็จ ก็อาศัยนอนบนโซฟาตัวนี้เพราะที่นอนยังไม่มาส่ง

โซฟาเบด ศิริมาเฟอร์นิเจอร์

ถ้าลอง Google ศิริมาเฟอร์นิเจอร์ จะเจอกระทู้ Pantip ที่พูดถึงร้านนี้อยู่บ้าง ซึ่งค่อนข้างเป็นเชิงบวก คือมีหลายคนที่สั่งทำโซฟากับร้านนี้ ของค่อนข้างมีคุณภาพ ราคาสูงนิดนึงเป็นไปตามคุณภาพ ใครสนใจลองไปเดินตามงานเฟอร์นิเจอร์ดู หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ของร้านศิริมาเฟอร์นิเจอร์ ไม่ต้องบอกว่ารู้จักจากคุณบอยนะครับ เพราะร้านเขาไม่รู้จักผม

เฟอร์นิเจอร์ชิ้นที่สองที่ภูมิใจนำเสนอมากคือโต๊ะอาหารครับ ผมไปเดิน IKEA แล้วเจอโต๊ะรุ่นนึงที่มีแผ่นโต๊ะซ้อนกันสองแผ่น สามารถดึงแผ่นที่อยู่ด้านใต้ออกมาเพื่อขยายให้โต๊ะใหญ่ขึ้นได้ ผมถูกใจตรงฟังก์ชั่นการใช้งานที่ยืดได้หดได้ ถ้ามีของจะวางเยอะก็ยืด ถ้าเกะกะห้องก็ค่อยหด ตอนนั้นยังไม่ได้ซื้อเพราะห้องยังไม่เสร็จ แต่พอห้องใกล้เสร็จก็ไปเดิน IKEA อีกที คราวนี้เจออีกรุ่น เป็นรุ่นที่พับปีกด้านข้าง ซึ่งถูกใจกว่ารุ่นแรกอีกเพราะ 1. รุ่นแรกต้องดึงแผ่นโต๊ะที่ถูกทับอยู่ออกมา ถ้าดึงไม่ดีมีสิทธิ์โดนทับนิ้วได้ 2. รุ่นนี้พอพับปีกสองข้างลงแล้ว จะพอดีกับเสาในครัวผมเลย 3. มีลิ้นชักให้ตั้ง 6 กล่อง เก็บของได้อีกเพียบ เมื่อนับข้อดีได้ 3 ข้อแล้ว ก็ตัดสินใจซื้อทันที แล้วก็พบว่ามันโคตรหนักเลย เกือบ 50 กิโล กว่าจะแบกกล่องขึ้นรถได้ (Nissan March ใส่ได้นะ) กว่าจะเอาลงจากรถแล้วขนขึ้นห้องได้ เสียเหงื่อเป็นลิตรเลย แต่การประกอบค่อนข้างง่าย คนเดียวก็ประกอบได้ (แต่แผ่นโต๊ะค่อนข้างหนัก ต้องออกแรงนิดนึง) นอกจากโต๊ะแล้ว ผมก็ซื้อเก้าอี้เข้าชุดพร้อมเบาะรองนั่งสีน้ำเงินมาด้วย รักษาธีม Santorini สุดๆ

โต๊ะกินข้าว IKEA

เครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่มักมีสีให้เลือกไม่มาก อย่างโทรทัศน์ก็เป็นสีดำทั้งนั้น หรือเครื่องซักผ้าส่วนใหญ่ก็เป็นสีขาว แต่ตู้เย็นนี่ดีหน่อยที่มีสีให้เลือกเยอะเลย ตู้เย็นที่มีสีโทนฟ้ามี 2 ยี่ห้อคือ Samsung กับ Mitsubishi ซึ่งผมเลือกของ Mitsubishi เพราะยี่ห้อนี้มีชื่อเสียงเรื่องตู้เย็น โดยซื้อจากร้านแสงชัยอีเล็คโทรนิค ร้านอยู่แถวตลาดอมรพันธุ์ตรงแยกเกษตร ร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องราคาถูก ต่อรองได้ จ่ายสดมีส่วนลดให้อีก

ตู้เย็น Mitsubishi

ที่นอน Miracle Latex 6 ฟุต หนา 10 นิ้ว ด้านบนเป็นยางพารา 4 นิ้ว ที่เหลือเป็น Pocket Sprint แถมหมอนยางพารามาให้ 2 ใบ ซื้อในงานเฟอร์นิเจอร์ที่ศูนย์สิริกิตติ์ ส่วนผ้าปูที่นอน ตอนแรกไปหาของ PASAYA แต่ไม่มีธีม Santorini เลย แต่ไปเจอของ Santas ที่ HomePro จัดมาเลยครับ

ผ้าปูที่นอน Santas

มาดูของอย่างสุดท้าย เป็นพวกจานชามสีขาว-ฟ้า ได้มาจากจตุจักร เวลากินข้าวแล้วได้บรรยากาศเหมือนอยู่ริมทะเลมากครับ

จานชามซื้อจากจตุจักร

จริงๆ ยังมีของใช้อีกหลายอย่างครับที่เป็นโทนสีนี้ ทั้งไม้กวาด ที่โกย ถังขยะ ถังน้ำ ไม้ม็อบ พรมเช็ดเท้า ฯลฯ ทุกอย่างประกอบกันทำให้ห้องนี้มีบรรยากาศสบายๆ ชิวๆ จนอยากจะนอนเล่นอยู่ในห้องทั้งวันเลย บางคืนผมจะเปิดแอปบน iPhone เล่นเสียงคลื่นทะเลตอนนอนด้วยนะ บางทีก็คิดฟุ้งซ่านอยากได้ทรายขาวๆ กับต้นมะพร้าวเตี้ยๆ มาไว้ที่ระเบียงห้องเลย เอาให้รู้สึกว่าอยู่ที่นี่ก็เหมือนไปเที่ยวหัวหินเลยทีเดียว

ถ้าอ่านแล้วชอบ ฝากแชร์ด้วยนะครับ
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  

, , , , , ,